ครั้งนี้เราได้มีโอกาสเดินทางมาทดสอบกันถึง กวางโจว ประเทศจีนถิ่นกำเนิดของซอนเทสก่อนจะเปิดตัวที่ไทยอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2024 โดยก่อนจะได้ทดสอบ รีวิว Zontes 368G ก็มีทริปไปเยี่ยมชมโรงงานและขั้นตอนการผลิต ซึ่งบอกได้เลยว่ายิ่งใหญ่อลังการไม่แพ้แบรนด์จากฝั่งยุโรปและญีปุ่น ได้มาตรฐานละดับโลก เลยทั้งการออกแบบและพัฒนา
นอกจากนี้เกือบ 90% ของอะไหล่ทุกชิ้นในโมเดลใหม่นี้ถูกผลิตขึ้นภายในโรงงาน เพื่อให้ได้มาตรฐานที่ดีที่สุด พนักงานกว่า 600 ชีวิตในสายการผลิตพร้อมกับเครื่องจักรเทคโนโลยีสุดล้ำหน้า เห็นกับมากับตาต้องยอมรับว่าจีนเขาไปไกลจริง ๆ
สำหรับเจ้า 368G โมเดลล่าสุดที่ทาง ซอนเทสได้นำเข้ามาทำการตลาดในบ้านเรา จัดเป็นรถสกู๊ตเตอร์ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้งในเมืองและการท่องเที่ยวที่ยกระดับสู่เส้gนทางที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับออปชันที่ขนกันมาเพียบจนเรียกว่าแน่นสุดในคลาส จนหลาย ๆ คนต้องจับตามอง
สำหรับการทดสอบในครั้งนี้แบ่งเป็นสองรูปแบบคือบนสนามทดสอบหน้าโรงงานและ การนำออกไปขับขี่ในทาง Off-Road จริง ๆ จนได้ข้อมูลที่น่าสนใจและเซอร์ไพร์สไม่น้อยกับสมรรถนะ แต่จะมีจุดไหนบ้างตามมาดูกันครับ
โมเดลนี้โดดเด่นด้วยดีไซน์ เหลี่ยมสันที่เฉียบคมและดุดันในสไตล์รถแอดเวนเจอร์ไบค์ มาพร้อมกับไฟหน้าคู่ พร้อมไฟท้ายที่วางไว้อย่างลงตัว ชิลด์หน้าปรับระดับได้ในสไตล์รถ Rally เบาะสองตอนพร้อมสต็อปเปอร์สำหรับคนขับเรียบหรูใช้งานได้ดีเยี่ยม พร้อมแฮนด์บาร์ทรงกว้าง ส่วนของดีไซน์ที่มาพร้อมกับฟังชั่นการใช้งานทีลงตัว เข้าไทยทั้งหมด 3 สี Light Grey, Extra Black, Ginger Desert Brown พร้อมกราฟิกสติ๊กเกอร์ที่สวยงาม “ตัวจริงหล่อมาก”
เครื่องแรงเหนือใคร
เครื่องยนต์ สูบเดียว 368 ซีซี ระบายร้อนด้วยน้ำ หัวฉีดไฟฟ้า Bosch ลูกสูบฟอร์จ เสื้ออลูมิเนียม เคลมแรงม้า 38.23 ที่ 7,500 รอบ แรงบิด 40 นิวตันที่ 6,000 รอบ ให้โหมดการขับขี่มา 2 โหมด ECO / Sport พร้อมระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยเหลือการขับขี่อย่างแทรคชันคอนโทรล เปิด/ปิดได้ที่ล้อหลัง เซ็นเซอร์วัดลมยาง TPMS
ความเร็วปลายที่ผมทำได้ในทริปอยู่ที่ 120 กม./ชม. สามารถไปได้อีกตามปัจจัยของ น้ำหนัก และลม ซึ่งในทริปมีคนทำความเร็วได้สูงสุดอยู่ที่ 140+ กม./ชม. พละกำลังมีให้ใช้เพียงพอต่อการเดินทางไกล ขับขี่สนุกแรงบิดเยอะ ใช้งานในเมืองคล่องตัว ส่วนในทดสอบในรูปแบบ Off-Road ปิด TC แล้วออกไปลุยสนุก ๆ ด้วยตัวเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดที่ดี ทำให้สนุกกับเส้นทางได้มากยิ่งขึ้น เป็นครั้งแรกของผมเช่นกันที่สามารถสไลด์รถสกู๊ตเตอร์ในสไตล์นี้ได้อย่างสนุก เอาอยู่ และรถก็บาลานซ์ดีมาก”
ถังน้ำมัน 17.5 ลิตร เคลมว่าประหยัดน้ำมันได้ 28.57 กม./ลิตร ดังนั้น 1 ถังสามารถเดินทางได้ 490 กม. ถือว่าประหยัดใช้ได้เลยสำหรับการใช้ในการเดินทางไกล”
ช่วงล่างไม่กั๊ก
ช่วงล่างด้านหน้า USD ขนาด 51 มม. ปรับรีบาวด์และคอมเพรสชั่นได้ หลังโช้คคู่ พร้อมซับแท้งค์ ปรับรีบาวด์และพรีโหลดได้
“ไม่มีกั๊กอัดช่วงล่างด้านหน้าขนาดใหญ่สุดในคลาสมาให้ สมรรถนะเกินตัว ทดสอบทั้งเข้าโค้งโหด เบรกหนัก ๆ ทำความเร็วสูง รูดผ่านทางหิน ดิน ทราย ในทาง Off-Road หนักสุดจับไปโดดแรมพ์ในทางเรียบ และโดดเนินในทางดิน ช่วงล่างทั้งหน้าและหลังเก็บหมด ซับแบบเนียน ๆ หนับไม่มีชก อาการออกน้อยมาก ทำให้การควบคุมทำได้ง่าย สนุกได้กับทุกเส้นทาง”
บรกหน้าดิสก์เดี่ยวแบบโฟลตติ้ง ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์แบบเรเดียลเมาท์ 4 พอต J.Juan เบรกหลังดิสก์เดี่ยว ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์ 2 พอต มาพร้อมกับระบบ ABS 2 ชาแนล และมีระบบปาร์คกิ้งเบรกให้ที่ก้านเบรกหลัง ได้คาลิเปอร์เบรกจาก J.Juan จาก อิตาลีแบรนด์ลูกของ Brembo ประสิทธิภาพสูง
“ไล่น้ำหนักมาได้สมูท ระยะเบรคสั้น ทำงานร่วมกับระบบ ABS ทำให้การหยุดรถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถ เปิด/ปิด ได้ที่ล้อหลัง เพื่อความสนุกในทาง Off-Road”
ล้อซี่ลวดแบบ Tubeless หน้าขอบ 17 หลังขอบ 14 มัดมาพร้อมกับยาง ALL TERRAIN จาก CST รุ่น CM-509 ด้านหน้าขนาด 120/70 R 17 58H TL ด้านหลังเป็น CM-SC05 110/80 – 14 53P TL
“เน้นให้มาลุย เพิ่มความคล่องตัวในทางดิน แต่ความสามารถในการเดินทางยังคงทำได้ดี เจอทั้งฝน และทาง Off-Road เอาอยู่หมด แต่ทางฝุ่นแนะนำให้ปล่อยลมยางลงมาหน่อย จะได้การยึดเกาะที่ดีขึ้น”
ฟีเจอร์อัดมาแบบจุก ๆ
เรือนไมล์ 8 นิ้ว จอสี TFT บอกข้อมูลครบถ้วนและชัดเจน พร้อมปรับตามสภาพแสงได้แบบอัตโนมัติ เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ผ่าน App INTELLIGENCE สามารถเปิดระบบนำทาง และ เล่นเพลง ดูหนังได้ในรูปแบบสตรีมมิเรอร์
ระบบไฟหน้าดวงคู่ ไฟท้าย และไฟเลี้ยว Full LED ดีไซน์สวยงามลงตัวในสไตล์ Adventure ส่องสว่างชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน ยังมีกล้องด้านหน้าและด้านหลังเซ็นเซอร์ Sony Starvis CMOS บันทึกวิดีโอได้ในระดับ FullHD 1080p กับมุมมองกว้าง 140 องศาและรูรับแสงที่ F1.8 หน่วยความจำ 128 GB บันทึกวนลูป สามารถโหลดคลิปได้จาก App INTELLIGENCE และเพลย์แบ็คได้ที่เรือนไมล์ โดยควบคุมผ่านปุ่มที่ประกับด้านซ้ายมือ
ระบบกุญแจ Keyless 3.0 สตาร์ทเครื่อง เปิดถังน้ำมันได้ง่ายในระยะทำการ เคลมว่าตัว Keyless สามารถจมน้ำได้ 1 เมตร ฝนตกทั่วไปหายห่วงเอาอยู่สบาย ๆ ช่องชาร์จไฟ 3 ตำแหน่ง 6 ช่องแบบ Fast Charge และมีทั้งแบบ USB A, USB C ช่องเก็บของคอนโซลหน้า 1 ช่อง ใต้เบาะกว้างพร้อมไฟใต้เบาะสามารถใส่หมวกเต็มใบได้ 2 ใบ
ชิลด์หน้าทรงสูงปรับได้ 5 ระดับ แฮนด์แฟทบาร์กว้างปรับได้ 2 ระดับ การ์ดแฮนด์ สไตล์ ADV การ์ดแคร้งอลูมิเนียมใต้ท้องรถช่วยให้มั่นใจขึ้นทุกการผจญภัย
พักเท้าอลูมิเนียม สำหรับคนขับ ให้สำหรับการยืนขี่ในทาง Off-Road สามารถถอดยางออกได้ คนซ้อนก็ให้มาด้วยเช่นกัน
ออปชันเสริมอีกหน่อย แครชบาร์ตรงรุ่นจากโรงงาน พร้อมไฟตัดหมอก ปรับได้ 3 รูปแบบ สีเหลือง สีขาว และไฟกระพริบ ที่แขวนของพับเก็บได้ อันนี้แจ๋ว พ่อบ้านถูกใจแน่นอน
มิติการควบคุม
ความสูงเบาะ 795 มม. ไม่สูงมากจนเกินไป มีในส่วนฟุตเพลทที่ทำเว้าหลบขาทำให้ตัวรถแคบลง ช่วยให้ขาถึงพื้นได้ง่ายขึ้น ท่า “นั่ง” ขับขี่หลังตรงแฮนด์กว่างเดินทางไกลสบาย เบาะ 2 ตอน พร้อมพนักพิงช่วยให้นั่งขับขี่นานได้สบายมากยิ่งขึ้น
ส่วนท่า “ยืน” ที่ไม่คุ้นในรถสกู๊ตเตอร์ ทางค่ายก็ออกแบบตำแหน่งพักเท้าออกมาได้ดี วางเท้าแล้วสามารถหนีบรถได้กระชับ ก้มจับแฮนด์ได้เหมือนกับรถ แอดเวนเจอร์ทั่วไป ความสูงใต้ท้องรถ 180 มม. ทำให้มั่นใจได้มากขึ้นว่าใต้ท้องรถจะผ่านอุปสรรคไปได้แบบสบาย ๆ เป็นการออกแบบการควบคุมที่ใส่ใจในรายละเอียดและการใช้งานได้ดีเยี่ยม
สรุป
Zontes 368G ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะเข้ามาตอบโจทย์ของคนที่กำลังมองหา รถที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ สามารถใช้ในชีวิตประจำวัน เดินทางทำงานภายในเมืองได้ด้วยความคล่องตัว ส่วนในสุดสัปดาห์อยากจะเปลี่ยนมาในโหมดพักผ่อน ก็สามารถตอบสนองคุณได้พร้อมจบ ด้วยออปชันที่ให้มาแบบล้นทั้งลำ ซึ่งช่วยยกระดับความสนุกกลับกลุ่มเพื่อนในการท่องเที่ยวได้ด้วยสมรรถนะของตัวรถที่จะทำให้คุณสนุกกับการผจญภัยได้ไกลขึ้นกว่าเดิมในทาง Off-Road
เรียกว่าครบจบที่โมเดลนี้ด้วยออปชันและสมรรถนะออปชันที่เพื่อน ๆ เห็นทั้งหมดนี้เอาไปเลยไม่มีตัดจัดไปครับ
CR: Motocrossmag
